“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงชนะ ลิเวอร์พูล ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เข้ารอบรอชนะเลิศ เอฟเอ คัพ

การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีม ประจำวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค. 67 “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 10 แมนยูฯ ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อเลฮานโดร การ์นาโช ยิงไปติดเซฟ ควิวีน เคลเลเฮอร์ บอลมาเข้าทาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ตามซ้ำเข้าไป

จากนั้นนาทีที่ 38 ลิเวอร์พูล ชวดตีเสมอ จากจังหวะที่ วาตารุ เอ็นโด ยิงเข้าไป แต่ VAR เช็กว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

แต่ทว่านาทีที่ 44 ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 1-1 สมใจ จากการยิงเต็มข้อของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย

แค่นั้นยังไม่พอ ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+2 ลิเวอร์พูล แซงนำ แมนยูฯ 2-1 จากการซัดของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 87 แมนยูฯ ตีเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 จากจังหวะพลิกยิงสุดสวยของ แอนโทนี ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง

และในช่วงทดเจ็บ 90+4 แมนยูฯ น่าแซงสุดๆ เมื่อ คริสเตียน อีริคเซน เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เอาบอลลงอย่างสวย แต่ยิงเล่นทางหลุดเสาไกลออกไปอย่างเหลือเชื่อ

จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษ

นาทีที่ 101 แมนยูฯ เกือบขึ้นนำ เมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช จ่ายให้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ยิงเข้าข้างตาข่าย ได้ลุ้นเลย

นาทีที่ 105 กลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ประตูขึ้นนำ 3-2 ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิงแฉลบเข้าประตูไป

แต่ ปิศาจแดง ไม่ยอมง่ายๆ นาทีที่ 112 แมนยูฯ ตีเสมอ 3-3 จากจังหวะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จ่ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงในเขตโทษเข้าไป

นาทีที่ 120+1 แมนยูฯ เฮสนั่น แซงนำ ลิเวอร์พูล 4-3 จาก อาหมัด ดิยัลโล โดย ดิยัลโล โดนใบแดง ไปด้วย หลังโดนใบเหลืองที่สองจากการไปถอดเสื้อ

จบเกม แมนยูฯ ชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 เข้ารอบรองชนะเลิศ